วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

โรงเรียนที่สังคมต้องการ







โรงเรียนชัยมงคลวิทยา จังหวัดสงขลา
เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ไปเที่ยวทำบุญที่วัดชัยมงคลจังหวัดสงขลา ได้เดินสำรวจบริเวณวัดเห็นมีอาคารอยู่หลังหนึ่งขึ้นป้ายชื่อโรงเรียนชัยมงคลวิทยา เดินเข้าไปดูข้างใน เห็นมีชั้นเรียนชั้นอนุบาล และชั้นประถมหนึ่ง ด้านหน้าอาคารตรงกำแพงมีการเขียนรูปเกี่ยวกับศาสนาอาไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ มีสนามเด็กเล่น มีลานวิ่งเล่นดูร่มรื่นสนใจอยากรู้ว่าเป็นโรงเรียนประเภทใดจึงกลับมาค้นหาความรู้ประกอบดังที่จะเอามาเล่าให้กับท่านผู้อ่านดังนี้
สงขลา จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เป็นเมืองท่าและเมืองชายทะเลที่สำคัญมาแต่โบราณ งดงามด้วยขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษาและมรดกทางวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษตกทอดให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาจนทุกวันนี้ รวมทั้งมีวัดเก่าแก่นับร้อยแห่ง
ทำให้แดนดินถิ่นนี้ อบอวลไปด้วยความเงียบสงบร่มเย็น เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรม
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่จะมีพระสงฆ์ผู้คู่ควรแก่การกราบไหว้เป็นมงคลชีวิตอยู่หลายรูปด้วยกัน
พระราชวรธรรมโกศล ก็เป็นหนึ่งในพระเถระจำนวนนั้น
พระราชวรธรรมโกศล (แฉล้ม เขมปัญโญ) เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ฝ่ายมหานิกาย ปัจจุบันดำรง ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล พระอารามหลวง อ.เมือง จ.สงขลา
ปัจจุบัน อายุ 79 พรรษา 58
เป็นสงฆ์ที่ได้ชื่อว่าปกครองและจัดระเบียบการบริหารงานของคณะสงฆ์ใน จ.สงขลา ได้อย่างมีประ สิทธิภาพ
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า แฉล้ม ชูโต เกิดเมื่อปี พ.ศ.2472 ที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 3 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเพ็ชร และ นางสั้น ชูโต มีพี่สาว 1 คน น้องชาย 3 คน ครอบ ครัวประกอบอาชีพค้าขาย ทำนา และการประมง
ในวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดธรรมโฆษณ์ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา จากนั้นออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพทำนา เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย และออกหาปลา
บางครั้งได้ตามบิดาไปช่วยค้าขายทางเรือ ซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผาสทิงหม้อ โดยนำไปขายตามชุมชน และเมืองต่างๆ ทั้งหัวไทร ปากพนัง ท่าศาลา และขา กลับ ยังได้แวะซื้อสินค้าจากเมืองต่างๆ มาขายที่เมืองสงขลา
กระทั่งอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2493 ณ พัทธสีมาวัดธรรมโฆษณ์ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา มี พระครูธรรมโฆษณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อครองสมณเพศก็มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2496 ได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่วัดชัยมงคล และสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ
พ.ศ.2508 สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค จากสำนักเรียนวัดชัยมงคล
มีความรู้พิเศษด้านภาษาขอม และมีความชำนาญในการเทศนา ปาฐกถาธรรม การเผยแผ่ธรรม การอบรมพัฒนาจิต นวกรรมการออกแบบการก่อสร้าง และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล กระทั่งปี พ.ศ.2517 ได้รับการแต่งตั้งให้เเป็นเจ้าอาวาส วัดชัยมงคล
พ.ศ.2528 วัดชัยมงคล ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง ท่านก็เป็นผู้รักษาการ
พ.ศ.2530 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดชัยมงคล (พระอารามหลวง) จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ วัดชัยมงคล ตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนชัยมงคล อ.เมือง จ.สงขลา สร้างเมื่อปี พ.ศ.2394 สมัยรัชกาลที่ 4 ตอนต้น มีนามเดิมว่า วัดโคกเสม็ด ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดชัยมงคล มีพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2528
ท่านได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานด้านพระพุทธศาสนาในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศอินเดีย เนปาล ศรีลังกา
พ.ศ.2535 ได้ฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอาจารย์ภัททันตะอาสภะ มหาเถระ ที่จังหวัดชลบุรี
พระเดชพระคุณได้สร้างคุณูปการต่อชาวสงขลาเป็นอย่างมาก พ.ศ.2502 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี ประจำสำนักศาสนศึกษาวัดเลียบ อ.เมือง จ.สงขลา
ปัจจุบันท่านยังเป็นคณะกรรมการสอนบาลีสนามหลวงของสำนักเรียน จ.สงขลา เป็นผู้อำนวยการโครงการอบรมเยาวชนภาคฤดูร้อน เป็นประธานโครงการปฏิบัติธรรมพัฒนาจิต เป็นประธานที่ปรึกษา วิทยากรบรรยายธรรม และอำนวยการฝึกอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นประธานจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับชาวมาเลเซียเชื้อสายไทย ในประเทศมาเลเซีย
นอกจากนี้ ท่านยังเน้นให้การศึกษาแก่นักเรียนที่มีฐานะยากจน โดยส่งเสริมให้การศึกษาทั้งแผนกธรรม บาลี และสามัญศึกษา ซึ่งขณะนี้ท่านได้สร้างอาคาร เปิดเป็นโรงเรียนชัยมงคล ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 2 ห้องเรียน จึงเปิดรับนักเรียนได้เพียงชั้นอนุบาลและชั้นประถมปีที่ 1 ซึ่งเปิดเทอมที่ผ่านมาได้เปิดเรียนเทอมแรก เป้าหมายท่านจะก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จ และรับนักเรียนเข้าเรียนได้จนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2532 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2550 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสงขลา
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2529 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ที่ พระครูศรีมงคลเจติยากร พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระวิเชียรโมลี
พ.ศ.2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวรธรรมโกศล
ด้านเกียรติคุณทางสังคม พ.ศ.2544 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ถวายโล่เชิดชูเกียรติคุณเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา สาขามนุษย ศาสตร์
พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรและเสมาธรรมจักร ผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาในด้านการบริหารคณะสงฆ์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กรุงเทพมหานคร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2551 ได้รับปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาหลักสูตรและการสอน ที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ลงมติถวาย
พระราชวรธรรมโกศล เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนชาวเมืองสงขลา เป็นสมณะที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม มั่นคงในการปฏิบัติธรรมพระกัมมัฏฐาน เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งทางใจ เน้นการสร้างทรัพยากรบุคคล โดยยึดหลักการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ท่านมีความตั้งใจให้เด็กไทยทุกคนได้รับการศึกษา สร้างคนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม ด้วยเล็งเห็นว่าทุกวันนี้บ้านเมืองศีลธรรมถดถอย จำเป็นต้องเริ่มปลูกฝังศีลธรรมตั้งแต่เด็ก ให้มีศีลธรรมสัมมาคารวะ ความประพฤติเรียบร้อย เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้เป็นปกติสุขในสังคม
จึงนับเป็นมงคลอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดและได้รับฟังคำสั่งสอนจากตัว








ไม่มีความคิดเห็น: